การงาน ของ สุทธิชัย หยุ่น

หลังจากนั้น เข้าทำงานที่บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด อยู่สามเดือน จึงเปลี่ยนมาเป็นล่าม ให้กับผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน ที่เข้ามาสร้างเขื่อนผามอง จังหวัดหนองคาย เสร็จจากงานชั่วคราวนี้ จึงเข้าศึกษาต่อที่ แผนกอิสระสื่อสารมวลชน ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ปัจจุบันคือคณะนิเทศศาสตร์) ขณะเรียนก็เป็นพนักงานพิสูจน์อักษร ที่บางกอกโพสต์ เมื่อปี พ.ศ. 2511 แต่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เรียนไม่จบ เพราะเวลาเรียนกับเวลาทำงานตรงกัน จึงตัดสินใจเลือกทำงาน[ต้องการอ้างอิง] หลังจากนั้นเลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยหัวหน้าข่าวที่บางกอกโพสต์ โดยมีหัวหน้าข่าว นาย เท่ห์ จงคดีกิจ เป็นเจ้านายคนแรก และต่อมา หลังจากทำงานได้เพียง 5 เดือน ก็เลื่อนขึ้นเป็นบรรณาธิการข่าวในประเทศ ทั้งที่อายุยังน้อย และไม่มีปริญญาบัตร[1] เขาได้รางวัลศรีบูรพาส่วนหนึ่งเนื่องจากข่าว พันเอก ณรงค์ กิตติขจร พังป้อมตำรวจ เนื่องจากเมาสุรา[2][ลิงก์เสีย]

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2514 บางกอกโพสต์ซื้อกิจการหนังสือพิมพ์บางกอกเวิลด์ ซึ่งสุทธิชัยเห็นว่า เป็นการผูกขาดวงการหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ จึงร่วมกับหม่อมราชวงศ์หญิงสุนิดา กิติยากร, ธรรมนูญ มหาเปารยะ และเพื่อนนักหนังสือพิมพ์ โดยประกาศขายหุ้นแก่ประชาชนเพื่อระดมทุน จนได้เป็นเงินราว 2 ล้านบาท ในการก่อตั้งหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษฉบับแรก ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ ให้ชื่อว่า เดอะ วอยซ์ ออฟ เดอะ เนชั่น (อังกฤษ: The Voice of The Nation; คำแปล: เสียงแห่งประชาชาติ) ในวันที่ 1 กรกฎาคม ปีเดียวกัน[ต้องการอ้างอิง]

ในปี พ.ศ. 2517 เขาทำงานกับวิทยุแห่งประเทศไทย และเริ่มมีชื่อเสียงจากการเล่าข่าวสงครามอ่าวเปอร์เซีย ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3ต่อมา เมื่อคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ก่อรัฐประหารในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ตามมาด้วยคำสั่งปิดหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยทุกฉบับ สุทธิชัยจึงนำใบอนุญาตที่ตนเคยทำสำรองไว้ก่อนหน้านั้น ออกหนังสือพิมพ์ชื่อใหม่ว่า เดอะ เนชั่น รีวิว (อังกฤษ: The Nation Review) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 จากนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2528 จึงเปลี่ยนเป็นชื่อที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

สุทธิชัยยังเป็นผู้ก่อตั้ง หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันฉบับแรกของประเทศไทย คือกรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2530 นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ริเริ่มวิทยุเนชั่น และเป็นหนึ่งในคณะผู้ร่วมดำเนินงานสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เมื่อปี พ.ศ. 2538, ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2543 จึงมาก่อตั้งสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนแนล ยุคต่อมา เขามีชื่อเสียงจากการเป็นคอลัมนิสต์ และผู้ดำเนินรายการสนทนาเชิงข่าว รายการที่สร้างชื่อคือ การรายงานข่าวสงครามอ่าวเปอร์เซีย ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2534 ทางไทยทีวีสีช่อง 3 และช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ต่อมาเครือเนชั่นจึงเริ่มผลิตรายการโทรทัศน์ครั้งแรก เนชั่น นิวส์ ทอล์ก ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าตรวจสอบบัญชีธนาคาร และการชำระภาษีย้อนหลัง ของสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งในจำนวนนั้น มีสุทธิชัยรวมอยู่ด้วย[3]

สุทธิชัย หยุ่น เป็นที่รู้จักในฐานะนักข่าว เช่น กรณีที่ญาตินักการเมืองแกนนำในรัฐบาลซื้อหุ้นในกิจการสื่อมวลชน[4] อย่างไรก็ตามเขาวิจารณ์การทำงานของสื่อมวลชนหลายครั้งเช่นกรณี การเสนอข่าวการเจ็บป่วยของ ทฤษฎี สหวงษ์[5]

หลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศใน รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา[6]

แหล่งที่มา

WikiPedia: สุทธิชัย หยุ่น http://www.positioningmag.com/Magazine/Details.asp... http://rdd.mcot.net/bio/query.php?id=5177 http://www.isranews.org/isranews-article/item/4301... http://www.thaiwriterassociation.org/columnread.ph... http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID... http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?Ne... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/... http://www.nationtv.tv/main/content/social/3784585... https://www.facebook.com/SuthichaiLive https://twitter.com/suthichai